top of page

หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” ยิ่งอ่าน ยิ่งจน เพราะ??

หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก”

หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” เขียนโดย โรเบิร์ต คิโยซากิ นอกจากจะสร้างนักธุรกิจ และผู้ประสบความสำเร็จอย่างมากมายแล้ว ในอีกด้านหนึ่ง ก็พบผู้อ่านอีกกลุ่มที่ได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม

เพราะพวกเขายังตีโจทย์ไม่แตก และยังหลงทางอยู่ในกับดักความคิดทางการเงินอยู่อย่างน่าเสียดาย

หากใครอ่าน “พ่อรวยสอนลูก” จะเห็นว่ามีหลักความคิดสำคัญๆอยู่เพียงแค่

การทำงานนั้น เป็นไปเพื่อสร้างความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าเพื่อการรับจ้าง เราต้องเป็นเจ้าของระบบ แต่ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งในระบบ เพื่อการสร้างรายได้ที่เป็น “รายได้จากทรัพย์สิน” การสร้างรายได้จากทรัพย์สิน เป็นไปเพื่อให้เงินจากทรัพย์สินมีมากพอจนสามารถเลี้ยงดูเราได้ โดยไม่ต้องทำงาน การดูแลเงินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการลงทุนใช้มันออกไปทำงานเพื่อสร้างเงินเพิ่มอีก *เน้นว่า “เพื่อสร้างเงินเพิ่ม” หลักแนวคิดที่เรียบง่ายและมีพลัง ซึ่งถูกใช้มาตลอดหลายยุคหลายสมัย โรเบิร์ต คิโยซากิ สังเกตุเห็นและทราบถึงความสำคัญ จึงนำมาตีแผ่ให้ทุกคนบนโลกได้รับรู้ว่า “ไม่ว่าใครก็ร่ำรวยได้ ถ้ามีวิธีการคิดที่ถูกต้อง” หรือ อีกนัยหนึ่งคือ “ความรู้ และวิธีการ สำคัญมากกว่าจำนวนเงิน!” ซึ่งหากผู้อ่านท่านใดยังตีโจทย์ไม่แตก และหาทางเริ่มต้นโดยลงมือทำตามแบบลอกเขาเป๊ะๆ โดยไม่มีการประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง และเหมาะสมกับประเทศไทย ก็มักจะเจอผลลัพธ์ที่เจ็บปวดมากกว่าที่คิดที่ฝันไว้ บางคนล้มไม่เป็นท่า ขาดทุนเป็นหนี้สินมากมาย และพาลเกิดความคิดที่เป็นทางตรงกันข้ามอย่างเช่น เรียนรู้จากงานไปโดยไม่มีค่าจ้าง ที่สมเหตุสมผล มันโลกสวยเกินไป ถ้าทุกคนมีรายได้จากทรัพย์สินกันทุกคน โลกก็คงมีแต่คนขี้เกียจเต็มไปหมดแล้ว เราจะสร้างเงินเยอะๆได้ ก็ต่อเมื่อเรามีทุนสูงๆ

เพราะอะไร ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่หลังอ่านหนังสือจบ มักมีความฝัน มีแรงบันดาลใจ มีความคิดที่อยากจะได้รับ อิสรภาพทางการเงิน แต่ก็ไม่ได้ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนบางคน บางท่านยิ่งอ่านยิ่งจน ยิ่งลงมือทำยิ่งจนลงไปอีก ซึ่งหากเราสังเกตุกัน ผู้ที่ยังติดอยู่กับหลักความคิดจากยุคเดิม ที่ว่า ขยันเรียนหนักๆ เพื่อให้ได้เกรดดีๆ เราจะได้มีงานที่มั่นคง คำว่า “มั่นคง” ที่ถูกหล่อหลอมมายังเป็นส่วนสำคัญที่กำหนดลักษณะทางความคิดของเขา ให้ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ เพื่อไม่ให้เราพลาดไปกับการแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยโยนเงินเข้าไปในระบบ และคาดหวังผลลัพธ์ในลักษณะ “เงินตอบแทน” ที่เหมือนจะได้มาง่ายๆ ฟรีๆ เราต้องกลับมาเน้นย้ำถึงกฎเหล็กของ “การสร้างเงิน” อีกครั้ง 1. เงินทองมีอยู่ทั่วไป และมากพอสำหรับคนทุกคนบนโลก หากคุณรู้ว่า หากเราเอาเงินของทุกที่ทั่วโลกมากองรวมกัน เปรียบเทียบกับ จำนวนคนบนโลกที่มีเพียงแค่ 7.4 พันล้านคน หากหารเท่าๆกันแล้ว เราทุกคนบนโลกนี้สามารถเป็นเป็นมหาเศรษฐีได้เลยทีเดียว

สิ่งที่จะทำให้ตัวเราดูดเงินมานั้น ไม่ใช่การทำงานหนักๆเพื่อให้เจ้านายหรือใครซักคนมาเลี้ยง แต่เป็นการที่เราทำประโยชน์ต่อคนบนโลกอย่างมากมายและคนบนโลกนี้ก็พร้อมที่จะแบ่งเงินมาให้เราเพื่อเป็นรางวัลที่เราช่วยให้เขาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น สุขสบายมากขึ้น 2. การสร้างรายได้จากทรัพย์สิน เป็นเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน “หนังสือพ่อรวยสอนลูก” พยายามเน้นย้ำมากๆในเรื่อง ของ “ความคิดและไอเดียในการสร้างเงิน” เมื่อเราตระหนักว่าเงินวิ่งอยู่รอบตัวเรามากมาย มันไม่ได้หมายความว่า “เราไม่ต้องทำอะไรเลย” แต่หมายความว่า “เราจะลงทุน ลงแรง และใช้วิธีการแบบไหน” ลักษณะทางความคิดที่มีต่อเงินของเรา เปรียบเหมือนช่องว่างระหว่างรูของอวนดักปลา “ยิ่งคิดและมีไอเดียเฉียบขาดเท่าไหร่ ปลาก็ยิ่งติดอวนมากขึ้นเท่านั้น” 3. ทุกความคิด ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ เหตุผลที่คนลงมือทำธุรกิจใหม่ๆ มักไปไม่ถึงฝั่งฝัน เป็นเพราะเขาไม่คอยตรวจสอบตลาด ไม่มีการวางแผน และไม่ประเมินวิธีการ หรือปรับกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ เห็นได้ว่าการลงทุนแต่ละครั้งในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก มักถูกกำหนด ราคา ความเสี่ยง และรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆออกมาเป็นตัวเลข ทั้งนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ การวางแผน และการกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ

เราไม่มีทางรู้ได้ว่า รถยนต์ที่เราขับ ภายในยังทำงานปกติหรือไม่ จนกว่าเราจะเปิดมันออกมาตรวจดู การที่เราไม่มีการวิเคราะห์สิ่งต่างๆออกมาเป็นตัวเลข มันไม่ต่างจากการมองรถที่จอดอยู่เฉยๆ แล้วตีความไปเองข้างเดียวว่ามันเป็น “รถที่ดี”

4. การลงทุน ต้องมีแผนการ ทุกๆการลงทุนที่เกิดขึ้นใน “พ่อรวยสอนลูก” เราเห็นได้ว่าการลงทุนแต่ละครั้งล้วนเกิดขึ้นจากไอเดีย และความคาดหวังในทางที่ดี แต่ยังมีอีกด้านที่เราควรใส่ใจเช่นกัน การลงทุนหรือทำธุรกิจ เจ้าของต้องรู้จักวิธีการเอาตัวออกจากธุรกิจให้ได้ เขาเหล่านั้นต้องรู้จักใช้คน รู้จักการกระจายงาน มีการวางแผนในหลายๆระดับ ซึ่งรวมไปถึงการหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยมีแผนการถอนเงินทุนออก หรือลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในภายหลังไว้ล่วงหน้าก่อนลงทุนจริง “พ่อรวยสอนลูก” เน้นย้ำถึงการมองธุรกิจและการลงทุนให้ขาด ตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง และมีการวางแผนรองรับไว้ตั้งแต่ต้นก่อนที่จะลงทุนจริง และมีการสอนผ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องไปถึงการวิเคราห์ตลาด การดูแลบัญชี การปรับกลยุทธ์ การเลือกทำเล การดูวงจรเศรษฐกิจ การเปิดบริษัทอย่างได้ผลประโยชน์ทางกฏหมายและภาษี ตลอดไปจนการช่วยปรับวิสัยทัศน์ ของผู้อ่านอีกด้วย

เมื่อคุณนำหลักความคิดดีๆเหล่านี้ไปตอกย้ำให้เป็นของตนเองแล้ว คุณจะพบว่า

คุณจะต้องพัฒนาตัวเอง ทั้งทางความคิดและความเชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็วเมื่อคุณอยู่ในงานที่ดี โดยไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆเลยกับค่าจ้างที่ได้รับ

หลักการคิดด้านการเป็นลูกจ้าง ถือเป็นอีกช่องทางรายได้ ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าคุณต้องออกจากงานเพื่อมาฝากชีวิตไว้กับธุรกิจหรือการลงทุน ช่องทางต่างๆล้วนเป็นทางเลือกที่คุณจะมีมากเท่าไหร่ก็ได้

การสร้างระบบ ไม่ใช่เพื่อแต่การเป็นเจ้านายตัวเอง แต่เป็นการสร้างงาน และแบ่งปันรายได้จากธุรกิจออกไปเพื่อดูแลคนที่ยังค้นหาโอกาสของตนไม่เจอ

การสร้างรายได้จากทรัพย์สิน ปลายทางไม่ใช่เพื่อความสะดวกสบาย แต่เพื่อให้ตัวคุณมีอิสระจนเลือกทำเฉพาะในสิ่งที่รัก และทำเพื่อสังคมได้มากขึ้น

สิ่งที่ดึงดูดเงินไม่ใช่เงิน แต่เป็น “ความคิดหรือไอเดีย” ในการทำให้เงินที่ตนถืออยู่มีอำนาจ มีมูลค่าและมีประโยชน์มากขึ้น

ไม่มีหนังสือใดในยุคนี้ ที่จะช่วยติดอาวุธทางความคิดด้านธุรกิจและความสำเร็จเท่า “พ่อรวยสอนลูก” อีกแล้ว

ด้วยความปรารถนาดี

เจตนิพิฐ

ฝาก Like Facebook Fan page ให้ด้วยน่ะ กดที่รูปได้เลย เพื่อไปยัง Facebook

เรียนรู้การเป็น เจ้าของชีวิตตัวเอง

Own Your life

Credit: Phil Lee

Follow Us
  • Twitter Basic Black
  • Facebook Basic Black
  • Black Google+ Icon
Recent Posts
bottom of page