วิธีไปต่ออย่างทรงพลังแม้ว่าจะไม่มีใครร่วมธุรกิจกับคุณเลย
ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะแนะนำให้กับคุณ ผมคิดว่าเรื่องที่ผมกำลังจะแบ่งปันนี้จะช่วยให้คุณสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ว่าจะไม่มีใครเข้าร่วมธุรกิจกับคุณแม้แต่คนเดียวเลยครับ
ถ้าคุณจริงจังกับการสร้างความสำเร็จในธุรกิจแบบระยะยาวแล้วล่ะก็ คุณควรจะต้องอ่านบทความนี้ให้จบครับ มันจะช่วยคุณได้มากเลยผมสัญญา
เทรนนิ่งนี้คุณไม่สามารถพลาดได้เลยครับ
ถ้าคุณไปทานข้าวที่ร้านอาหารแล้วพนักงานเสริฟ์สาวสวยถามกับคุณว่า “คุณจะรับบูลเบอรี่ชีสเค้กเป็นของหวานไหมคะ” และคุณก็ตอบพนักงานอย่างสุภาพว่า “ไม่รับครับ ขอบคุณครับ”
พนักงานสาวสวยคนนั้นจะมาว่าตัวเองแบบนี้ไหม “เห็นไหม ว่ามันไม่เวิร์ค เห็นมั้ยว่าเป็นเด็กเสริฟ์มันไม่ได้เรื่องเลย ไม่น่าทำเลย ไม่น่าถามคำถามนี้เลย ฉันมันโง่ ฉันมันไม่ได้เรื่อง” คงไม่ใช่แบบนี้ใช่ไหมครับ ? นี่มันติงต๊อง
ทีนี้เรามาดูกันว่าทำไม ? มาวิเคราะห์กันนะครับ มันมีอยู่สองประเด็นครับ ประเด็นแรก บางทีพนักงานเสริฟ์คนนั้นถามคำถามนี้เป็นร้อยๆ ครั้งต่อวัน ประเด็นที่สองที่สำคัญมาก ๆ เลยคือพวกเธอไม่ได้คาดหวังกับผลลัพธ์ครับว่าคำตอบมันคืออะไร
คุณอย่าถามคำถามเพื่อให้คนเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับคุณ ซื้อสินค้าจากคุณ แค่ให้รู้แค่ว่าเขาเปิดใจหรือเปล่า ?
มันมีสองสิ่งที่พนักงานเสริฟ์ได้เปรียบพวกเราที่เป็นนักธุรกิจเครือข่ายก็คือ หนึ่งเลยเขาก็แค่ถามคำถามเป็นร้อย ๆ ครั้งในแต่ละวันและสองเขาไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์
ลองคิดดูสิครับถ้าคุณเป็นเหมือนพนักงานเสริฟคุณนี่จะเหมือนมีสุดยอดพลังเลยนะ คุณนี่จะรู้สึกเหมือนกับเป็น Captain America ที่มีพลังมหาศาลมาก ๆ เพราะคุณเป็นผู้เลือกครับว่าคุณต้องการที่จะคุยเรื่องโอกาสทางธุรกิจหรือสินค้ากับคนคนนั้นไหม
ก็เห็นไหมล่ะก็แค่ถ้าผู้คนเขาตอบรับของหวาน เขาเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับคุณหรือเป็นลูกค้าคุณ ถ้าไม่คุณก็แค่เดินเสริฟโต๊ะต่อไป ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ
ถ้าคุณรู้สึกหมดกำลังใจ ต๊อแต๊ นั่นหมายความว่าคุณกำลังคาดหวังผลลัพธ์ต่างๆ ในธุรกิจครับ ทำไปเถอะครับอย่าคาดหวังผลลัพธ์ครับ
ยินดีนะครับที่คุณจะแบ่งปันเรื่องราวออกไปนี้ให้ทีมของคุณที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้อแท้อยู่ครับ
กุญแจทองคำสู่ความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย “อย่าท้อ”
เจตนิพิฐ โสภา